ฝรั่งเศส เตือนออสเตรเลียพัฒนาเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ จะนำไปสู่การเผชิญหน้ากับจีน | JS100 | LINE TODAYฝรั่งเศส เตือนออสเตรเลียพัฒนาเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ จะนำไปสู่การเผชิญหน้ากับจีนประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส กล่าวว่า ออสเตรเลียกำลังเดินหน้าเข้าสู่การเผชิญหน้ากับจีนมากขึ้น จากการรับข้อตกลงถ่ายทอดเทคโนโลยีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์จากสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ผ่านสนธิสัญญาความมั่นคงไตรภาคีของออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา หรือออคุส (AUKUS)คำเตือนของประธานาธิบดีฝรั่งเศส เกี่ยวเนื่องจากที่ก่อนหน้านี้ ออสเตรเลียมีการทำสัญญากับฝรั่งเศสในการสร้างเรือดำน้ำ 58, 000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ในช่วงปลายปี 2564 นายสก็อต มอร์ริสัน ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น ยกเลิกสัญญาสร้างเรือดำน้ำกับฝรั่งเศส เนื่องจากไปเข้าร่วมในกลุ่มไตรภาคีฯ รับข้อเสนอเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์จากสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ทำให้มีความตึงเครียดเกิดขึ้น ประธานาธิบดีมาครง กล่าวหาอดีตนายกรัฐมนตรีมอร์ริสัน ว่าโกหกเขาเกี่ยวกับข้อตกลง ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่อดีตนายกรัฐมนตรีปฏิเสธในการให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์ก ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ยอมรับว่า กลุ่มไตรภาคี AUKUS คือสัญญาณขนาดใหญ่ของความยากลำบากของฝรั่งเศส ทั้งเห็นว่าสมาชิก AUKUS อีก 2 ประเทศจะไม่ทำตามคำมั่นสัญญา และฝรั่งเศสยังพร้อมที่จะสร้างเรือดำน้ำสำหรับออสเตรเลียให้เสร็จสิ้น แม้ว่านายกรัฐมนตรี แอนโธนี แอลบานีส ผู้นำคนปัจจุบันจะไม่มีความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงเรือดำน้ำกับสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร เพราะมีการทำงานไปตามข้อตกลง และเห็นว่า ประธานาธิบดีฝรั่งเศส สามารถเสนอความเห็นได้..
6 ล้านล้านบาท เป็นจำนวนเงินมหาศาล และแน่นอนเมื่อโดนออสเตรเลียยกเลิกสัญญา ฝรั่งเศสไม่พอใจมากของตัวเองอย่าง ฝรั่งเศส เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ฟลอเรนส์ พาร์ลีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศสเปิดแถลงข่าว ระบุว่า เหมือนถูกแทงข้างหลังจากพันธมิตรอย่างสหรัฐและออสเตรเลีย การที่รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศสออกมาแสดงความโกรธ ส่งผลให้ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บินไปพบกับตัวแทนฝรั่งเศส ก่อนเปิดแถลงข่าวว่า ไม่เคยคิดทิ้งพันธมิตร ระบุว่าสหรัฐฯ ยินดีเปิดรับประเทศอียูให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในความร่วมมือออคุสนี้ด้วย แต่ดูเหมือนการออกมาพูดของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จะไม่พอในการทำให้ฝรั่งเศสหายโกรธ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ฝรั่งเศสตอบโต้ด้วยการเรียกเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำออสเตรเลียกลับประเทศทูตฝรั่งเศสฌอง ปิแอร์ เตโบลต์ ต้องเก็บข้าวของ เดินทางกลับปารีสตามคำสั่ง แต่ระหว่างออกจากที่พักในกรุงแคนเบอร์ร่าเมืองหลวงของออสเตรเลีย ฌอง ปิแอร์ เตโบลต์ หยุดให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า นี่คือความผิดพลาดครั้งใหญ่ในทางการทูตของออสเตรเลียกับสหรัฐฯ การเรียกทูตกลับประเทศเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และนี่อาจจะเป็นความร้าวฉานที่สุดของความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศสกับออสเตรเลีย รวมถึงฝรั่งเศสกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสมาชิกองค์การป้องกันสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือ นาโตด้วยกัน ก่อนหน้าที่ฝรั่งเศสจะเรียกทูตประจำออสเตรเลียกลับประเทศ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌอง อีฟว์ เลอ ดริยอง ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ France 2 ของฝรั่งเศส เป็นการให้สัมภาษณ์ที่แรงมาก เพราะใช้คำว่า สหรัฐฯและออสเตรเลียตีสองหน้า รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส บอกว่า ได้รับแจ้งเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และออสเตรเลียจะลงนามในความร่วมมือออคุส และแน่นอนว่าข้อตกลงนี้นำมาสู่การฉีกสัญญาซื้อเรือดำน้ำของออสเตรเลียกับฝรั่งเศส ทั้งหมดทั้งปวงคือการกระทำที่ดูถูกฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส บอกด้วยว่า นี่คือจุดที่เลวร้ายที่สุดของความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศสกับสหรัฐ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ฝรั่งเศสมาถึงจุดเรียกทูตกลับประเทศ ไม่เฉพาะความร้าวฉานในระดับรัฐบาล ถ้าไปถามคนฝรั่งเศส ปรากฏว่าจำนวนมากไม่พอใจ โดยบอกว่า การที่ออสเตรเลียฉีกสัญญาที่ทำไว้เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ บางคนถึงกับบอกว่าเป็นการหักหลังกัน และการที่ฝรั่งเศสเรียกทูตกลับประเทศเป็นการตอบโต้ที่เหมาะสม ทันที่ที่ฝรั่งเศสเรียกทูตกลับประเทศ เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอริสันของออสเตรเลียออกมาให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกผิดหวัง แต่อย่างไรก็ตามออสเตรเลียเข้าใจถึงเหตุผลที่ฝรั่งเศสต้องทำเช่นนั้น ผู้นำออสเตรเลียระบุด้วยว่า เข้าใจดีอีกด้วยถึงความผิดหวังของฝรั่งเศสหลังจากออสเตรเลียยกเลิกข้อตกลงสร้างเรือดำนำมูลค่า 40, 000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ อย่างไรก็ตามออสเตรเลียมีอำนาจอธิปไตย และมีสิทธิตัดสินใจในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อความมั่นคงของประเทศ นี่อาจเรียกได้ว่า เป็นจุดที่ต่ำที่สุดของความสัมพันธ์ระหว่างฝรั่งเศสกับออสเตรเลีย เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ฝรั่งเศสเรียกทูตของตัวเองกลับประเทศ ซึ่งผู้นำออสเตรเลียถูกถามหลายรอบในระหว่างแถลงข่าวว่า ตัดสินใจไม่ผิดใช่ไหมที่ล้มดีลเรือดำน้ำฝรั่งเศสและหันไปใช้ของสหรัฐฯ แทน นี่คือคำตอบ น่าสนใจว่า ทั้งหมดนี้จะก่อให้เกิดผลกระทบต่อการรวมตัวกันของชาติตะวันตกในการต้านอิทธิพลของจีนหรือไม่ เพราะฝรั่งเศสเป็นทั้งสมาชิกของสหภาพยุโรปและนาโต "ไบเดน" เตรียมถก"มาครง" ทางออกเรือดำน้ำนิวเคลียร์ ท่ามกลางวิกฤตทางการทูตระหว่างฝรั่งเศส-ออสเตรเลีย และฝรั่งเศส-สหรัฐฯ ในวันพรุ่งนี้นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลียจะเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อหารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนที่ทำเนียบขาว และเมื่อคืนที่ผ่านมา โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศส กาเบรียล แอททัล ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ BFM ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ขอมาทางรัฐบาลฝรั่งเศสว่า จะโทรศัพท์พูดคุยกับผู้นำฝรั่งเศส ประธานาธิบดีเอ็มมนูเอล มาครง หนึ่งในประเด็นการพูดคุยคือ ผู้นำฝรั่งเศสจะขอคำอธิบายจากผู้นำสหรัฐฯ ว่า ทำไมจึงไม่มีการพูดคุยกับฝรั่งเศสก่อนในเรื่องความร่วมมือออคุส จนนำมาสู่การที่ออสเตรเลียยกเลิกคำสั่งต่อเรือดำน้ำกับฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่น่าสนใจที่โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศสพูดคือ การย้ำว่า สหรัฐและออสเตรเลียยังคือพันธมิตรที่สำคัญยิ่งของฝรั่งเศส สิ่งที่ฝรั่งเศสเป็นกังวลไม่ใช่เรื่องของการค้า แต่เป็นเรื่องความมั่นคงในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่ขณะนี้มีเดิมพันที่ใหญ่มาก ออสเตรเลีย ต้องการเรือดำน้ำนิวเคลียร์คานอำนาจจีน คำถามใหญ่ในขณะนี้คือ ทำไมออสเตรเลียจึงยกเลิกสัญญาเรือดำน้ำกับฝรั่งเศสและหันไปซบสหรัฐฯ เรื่องนี้อาจจะเข้าใจได้ไม่ยากนักเพราะถ้าไปดูสัญญาที่ออสเตรเลียทำกับบริษัท Naval ของฝรั่งเศสเมื่อปี 2016 โดยออสเตรเลียให้บริษัทสร้างเรือดำน้ำให้ 12 ลำ เรือดำน้ำที่ฝรั่งเศสจะสร้างให้ออสเตรเลียเป็นเรือดำน้ำประเภทพลังงานดีเซล ซึ่งเป็นเรือดำน้ำที่ศักยภาพเทียบไม่ได้กลับเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ทำไมออสเตรเลียจึงต้องการเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ เพราะยุทธศาตร์ด้านความมั่นคงของออสเตรเลียเปลี่ยนไปอย่ามากในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความสัมพันธ์กับจีนเปลี่ยนไป ก่อนหน้านั้น ออสเตรเลียและมีความสัมพันธ์ที่ดี เป็นความสัมพันธ์ที่ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์ด้านการค้า จีนคือผู้ซื้อสินค้ารายใหญ่ของออสเตรเลีย โดยเฉพาะแร่เหล็กจากออสเตรเลียเป็นที่ต้องการของตลาดจีนมาก เพราะมีคุณภาพสูง ซึ่งคุณภาพแบบนี้มีไม่กี่แห่งในโลก หนึ่งในนั้นอยู่ที่ออสเตรเลีย สินค้าของออสเตรเลียที่ส่งออกไปทั่วโลก ร้อยละ 45 มีจุดหมายปลายทางที่ประเทศจีน แต่ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา จีนกับออสเตรเลียเริ่มร้าวกัน ออสเตรเลียเริ่มวิตกกับการขยายอำนาจทางการทหารของจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่ประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน เห็นชอบยกเลิกข้อจำกัดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ส่งผลให้ “สี จิ้นผิง” จะสามารถดำรงตำแหน่งได้ตลอดชีวิต ออสเตรเลียเริ่มไม่ไว้ใจจีน เริ่มออกมาวิจารณ์จีนในเรื่องสิทธิมนุษยชน ประเด็นทะเลจีนใต้ จนถึงเรื่องโควิด ออสเตรเลียเป็น 1 ใน 14 ประเทศที่ออกมาบอกว่า จีนต้องรับผิดชอบและชดใช้ค่าเสียหายเพราะปล่อยให้มีการระบาด จีนไม่พอใจ งดนำเข้าสินค้าของออสเตรเลียหลายรายงาน ตั้งกำแพงภาษีสินค้าหลายประเภท การงัดข้อกับจีนตั้งแต่ปี 2018 ส่งผลให้ออสเตรเลียต้องหาทางเพื่มศักยภาพทางการทหารของตัวเองในฐานะประเทศในอินโดแปซิฟิก พึ่งคนอื่นไม่ได้ ถ้าจะงัดกับจีน ของที่สั่งไว้กับฝรั่งเศสอาจจะไม่พอ เมื่อเทียบศักยภาพกันแล้ว เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์เหนือชั้นกว่าเรือดำน้ำพลังงานไฟฟ้า ดีเซลเป็นอย่างมาก ประกอบกับปัญหาของการก่อสร้างเรือดำน้ำของฝรั่งล่าช้าและมีปัญหา จึงนำมาสู่การล้มดีลในที่สุด ฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความรู้และเทคโนโลยีในการสร้างเรือดำน้ำ รวมถึงเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ซึ่งขณะนี้มีเพียง 6 ประเทศในโลกที่มีเรือดำน้ำประเภทนี้ ได้แก่ สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน และอินเดีย แต่ถ้าเทียบกับสหรัฐฯ ฝรั่งเศสยังตามหลังอยู่ ทั้งเรื่องเทคโนโลยีและจำนวนเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ในครอบครอง ปัจจุบันสหรัฐฯ คือประเทศที่มีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์มากที่สุดคือ 72 ลำ ส่วนฝรั่งเศสมี 16 ลำ สหรัฐฯ ยังถือเป็นประเทศแรกที่สามารถพัฒนาและสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ได้ เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ลำแรกของโลกที่สหรัฐฯ สร้างคือ ยูเอสเอส นอติลุส (USS Nautilus) ถูกปล่อยลงทะเลเมื่อวันที่ 22 เมษายน ปี 1955 เป็นจุดเปลี่ยนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ จากเดิมที่เรือดำน้ำเป็นเพียงยานพาหนะใต้น้ำที่เชื่องช้า กลายเป็นเรือรบที่มีความเร็วสูงขึ้น ดำน้ำได้ลึกขึ้น สามารถอยู่ใต้น้ำได้นานเกือบ 3 เดือนโดยไม่ต้องโผล่ขึ้นมาเติมเสบียง และภายในำยังสามารถผลิตออกซิเจนจากน้ำทะเลได้ด้วย นอกเหนือจากดีลเรือดำน้ำกับสหรัฐแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ชี้ว่า ออสเตรเลียกำลังปรับยุทธศาสตร์ความมั่นคงใหม่หลังจากความสัมพันธ์กับจีนแย่ลงคือ การอนุญาตให้สหรัฐส่งทหารมาประจำการในออสเตรเลียเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผยจากรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน ที่พูดตรงๆว่า เพื่อรับมือกับจีนที่แข็งกร้าวมากขึ้นกับออสเตรเลีย มือปืนบุกกราดยิงใน ม.
ฝรั่งเศสหวังทุบชนะออสเตรเลีย ออกสตาร์ทด้วยการคว้า 3 แต้ม
'ฝรั่งเศส' ประณามออสเตรเลีย-สหรัฐฯ ปมดอดซื้อ 'เรือดำน้ำ' ลับหลัง× กรุณาติดต่อทีมงานเพื่อดาวน์โหลดคลิป (แฟ้มภาพซินหัว: ฌอง-อีฟว์ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีกระทรวงยุโรปและการต่างประเทศของฝรั่งเศส ในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ วันที่ 15 ก. ค. 2021) ปารีส, 20 ก. ย. (ซินหัว) — ฝรั่งเศสประณามออสเตรเลียและสหรัฐฯ กรณี “ละเมิดความไว้วางใจและดูหมิ่นเหยียดหยามครั้งใหญ่” ในข้อพิพาทเกี่ยวกับเรือดำน้ำ หลังจากมีมติเรียกตัวเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำออสเตรเลียและสหรัฐฯ กลับประเทศ เมื่อวันเสาร์ (18 ก.
ฝรั่งเศส vs ออสเตรเลีย - สถาบันพระปกเกล้า
ออสเตรเลีย-ฝรั่งเศส แตกหัก เพราะเรือดำน้ำนิวเคลียร์ - PPTVHD36
ฝรั่งเศส v ออสเตรเลีย แมตช์รีพอร์ต 16/6/18, World Cup | Goal.com
ฝรั่งเศส VS ออสเตรเลีย : พรีวิว ฟุตบอลโลก 2022
ฝรั่งเศสเรียกทูตกลับประเทศทันที ชี้ถูกสหรัฐฯ-ออสเตรเลีย ‘แทงข้างหลัง’ฝรั่งเศสไม่พอใจสหรัฐฯ เรียกทูตกลับประเทศหลังเสียดีลการค้าจัดซื้อเรือดำน้ำมูลค่า 3 ล้านล้านบาท หลังมีความร่วมมือทางกลาโหมระหว่าง สหรัฐฯ อังกฤษ ออสเตรเลียเมื่อสัปดาห์ที่แล้วสัปดาห์ที่ผ่านมา โจ ไบเดน ได้จุดประกายความขัดแย้งสำคัญครั้งใหม่ หลังประกาศร่วมมือทางกลาโหมกับออสเตรเลียและสหราชอาณาจักร ภายใต้ชื่อความร่วมมือ AUKUS โดยจะมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ให้กับออสเตรเลีย ซึ่งจะส่งผลให้ออสเตรเลียมีเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ครั้งแรก โดยนั่นสร้างความประหลาดใจให้กับฝรั่งเศสอย่างมากThe Guardian รายงานว่าความเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการไปยกเลิกสัญญาที่เคยมีขึ้นระหว่างออสเตรเลียและฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2559 โดยออสเตรเลียเคยได้ทำสัญญาสั่งซื้อเรือดำน้ำจากฝรั่งเศสมูลค่า 66, 000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 1.
28 น. ดราม่าหวย 6 ล้าน ยังไม่ถอนแจ้งความให้ แม้ภรรยาประกาศคืนเงิน 3. 1 ล้าน รอเห็นยอดเงินในบัญชีพรุ่งนี้ก่อน ข่าวแนะนำ จาการ์ตา 22 พ. – เจ้าหน้าที่กู้ภัยของอินโดนีเซียเร่งปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5. 6 ในจังหวัดชวาตะวันตกของอินโดนีเซียเมื่อวันจันทร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 162 คน และมีผู้บาดเจ็บหลายร้อยคน คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติของอินโดนีเซียกล่าวกับสำนักข่าวอันตาราของทางการอินโดนีเซียเมื่อช่วงเช้าวันนี้ว่า สำนักงานฯ ได้ระดมกำลังตำรวจหลายร้อยนายลงพื้นที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่เมืองจิอันจูร์ ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาล้อมรอบ ในจังหวัดชวาตะวันตกแล้ว ขณะที่ผู้ว่าการจังหวัดชวาตะวันตกระบุว่า ขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 162 คน รวมถึงเด็กหลายราย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 300 คน พร้อมทั้งเตือนว่าอาจมีประชาชนอีกหลายคนที่ยังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังในพื้นที่ห่างไกล โดยคาดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้จะเพิ่มขึ้นอีก ในขณะเดียวกัน หัวหน้าสำนักงานตำรวจของเมืองจิอันจูร์กล่าวกับสถานีโทรทัศน์เมโทร ทีวี ของอินโดนีเซีย ว่า เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือผู้คนราว 20 คนที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังที่เขตคูเกงัน แต่ส่วนใหญ่เป็นผู้เสียชีวิต ขณะที่ชาวบ้านยังคงแจ้งชื่อสมาชิกในครอบครัวที่สูญหายเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังระบุว่า ปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากเกิดเหตุไฟดับในหลายพื้นที่ และเกิดแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหว หรืออาฟเตอร์ช็อก กว่า 80 ครั้ง สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย (BNPB) รายงานว่า แผ่นดินไหวในครั้งนี้มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่เมืองจิอันจูร์ในจังหวัดชวาตะวันตก ลึกลงไปใต้ดินราว 10 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนรู้สึกได้ถึงกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย […] สำนักสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐกล่าวว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 7.
-สำนักข่าวไทย ดูข่าวเพิ่มเติม Top Viewed • อ่านมากสุด ดูทั้งหมด สลด! สาววัย 39 ถือถุงรับข้าวจากรถนวด ถูกเครื่องดูดผ้าขาวม้า ปั่นคอขาดดับ สามีร่ำไห้กอดร่าง ตำรวจแจ้งข้อหาคนควบคุมเครื่อง เพื่อนบ้านสยอง นอนใกล้ศพมานานหลายปี พบโครงกระดูกมนุษย์ ในทาวน์โฮม หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านศรีนครินทร์ คาดเสียชีวิตมาแล้ว 4-5 ปี โฆษกกองทัพเรือ เผยปฏิบัติการกู้ร่าง “น้องมาวิน” ที่จมหายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนศรีนครินทร์ สำเร็จแล้ว โดยเจ้าหน้าที่สามารถนำร่าง “น้องมาวิน” ขึ้นมาบนผิวน้ำได้ เมื่อเวลา 19.
ออสเตรเลียบรรลุข้อตกลงกับฝรั่งเศสเรื่องยกเลิกซื้อเรือดำน้ำแคนเบอร์รา 11 มิ. ย. – รัฐบาลใหม่ของออสเตรเลียที่มีพรรคแรงงานเป็นแกนนำ บรรลุข้อตกลงมูลค่า 583. 58 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อระงับข้อพิพาทกับฝรั่งเศส หลังจากที่ออสเตรเลียตัดสินใจเมื่อปีที่แล้วว่าจะยกเลิกข้อตกลงซื้อเรือดำน้ำจากฝรั่งเศส โดยออสเตรเลียคาดหมายว่า จะช่วยเยียวยาความร้าวฉานระหว่างทั้งสองประเทศได้ นายกรัฐมนตรีแอนโทนี่ อัลบาเนซี กล่าววันนี้ในระหว่างการแถลงข่าวที่นครซิดนีย์ว่า รัฐบาลชองเขาบรรลุข้อตกลงยุติข้อพิพาทกับนาวัล กรุ้ป อู่ต่อเรือของกองทัพฝรั่งเศสอย่างเป็นธรรมและยุติธรรม ออสเตรเลียตัดสินใจเมื่อปีที่แล้วในการยกเลิกคำสั่งซื้อเรือดำน้ำธรรมดาหลายลำจากนาวัล กรุ้ป มูลค่า 40, 000 ล้านอลลาร์ในปี 2016 ซึ่งหากเป็นในวันนี้มูลค่าจะสูงขึ้นอีกมาก การตัดสินใจยกเลิกดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลก่อนหน้านี้ของออสเตรเลียลงนามในข้อตกลงหุ้นส่วนไตรภาคีกับสหรัฐและอังกฤษ ซึ่งจะรวมถึงการจัดหาเรือดำนำพลังงานนิวเคลียร์สำหรับกองเรือด้ำน้ำออสเตรเลียที่จะใช้เทคโนโลยีจากสหรัฐและอังกฤษ ซึ่งการตัดสินใจของออสเตรเลียสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลปารีสอย่างรุนแรงและทำให้สองประเทศเข้าสู่ภาวะวิกฤตทางการทูตอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นายอัลบาเนซี กล่าวว่า การยุติข้อพิพาทในครั้งนี้จะช่วยเปิดทางให้ออสเตรเลียเดินหน้าในด้านความสัมพันธ์กับฝรั่งเศสได้ต่อไป.
เรียนทำอาหารที่ฝรั่งเศส ก้าวสู่การเป็น เชฟมืออาชีพ Le Cordon Bleu
) ฌอง-อีฟว์ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีกระทรวงยุโรปและการต่างประเทศของฝรั่งเศส กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ฟรานซ์ 2 ว่าการเรียกตัวเอกอัครราชทูตประจำสหรัฐฯ และออสเตรเลียกลับประเทศครั้งแรกในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสเป็นการแสดงออก “เชิงสัญลักษณ์” ซึ่งสะท้อน “วิกฤตร้ายแรงระหว่างกัน” “มีการโกหก การตีสองหน้า ตลอดจนการละเมิดความไว้วางใจและการเหยียดหยามครั้งใหญ่” เลอ ดริยองกล่าว พร้อมเสริมว่าผลลัพธ์ที่ตามมาสามารถส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ภายในองค์กรนาโต (NATO) ได้ “นาโตริเริ่มการหารือแนวคิดขององค์กรฯ” เลอ ดริยองกล่าว “การประชุมสุดยอดนาโตครั้งต่อไปในมาดริดจะมุ่งเป้าไปที่แนวคิดเชิงกลยุทธ์รูปแบบใหม่ และแน่นอนว่าสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นจะเกี่ยวข้องกับคำนิยามนี้” เลอ ดริยองระบุว่าฝรั่งเศสจะทำให้การพัฒนากลยุทธ์ด้านความมั่นคงของสหภาพยุโรป (EU) เป็นพันธกิจสำคัญลำดับแรกเมื่อรับตำแหน่งประธานอียูในช่วงต้นปี 2022 ทั้งนี้ ออสเตรเลียจะสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ด้วยเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ภายใต้การเป็นหุ้นส่วนด้านความมั่นคงใหม่ระหว่างออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ หรือที่เรียกว่าออคัส (AUKUS) ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันพุธ (15 ก.
ออสเตรเลีย-ฝรั่งเศส แตกหัก เพราะเรือดำน้ำนิวเคลียร์ยังคงเป็นประเด็นร้อนต่อเนื่อง หลังจาก สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และออสเตรเลียทำข้อตกลงความมั่นคงที่เรียกว่า ออคัส เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ภายใต้ข้อตกลง สหรัฐฯ จะถ่ายทอดเทคโนโลยีเรือดำนำพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีทางการทหารขั้นสูงให้กับออสเตรเลีย ด้าน จีนออกมาตอบโต้ ชี้การติดอาวุธให้กับออสเตรเลียแบบนี้ถือเป็นการยั่วยุ นอกจากจีนก็ยังมีเกาหลีเหนือที่ออกมาตอบโต้ด้วย ฝรั่งเศส เรียกทูตในสหรัฐฯ-ออสเตรเลีย กลับประเทศ ฉุนถูกฉีกสัญญาซื้อเรือดำน้ำ สหรัฐฯ-อังกฤษ ช่วยสร้างเรือดำน้ำนิวเคลียร์ ให้ออสเตรเลีย หวังต่อกร จีน จีน ประณาม สหรัฐฯ-อังกฤษ-ออสเตรเลีย ร่วมสร้างเรือดำน้ำนิวเคลียร์ ชี้นำโลกกลับสงครามเย็น สหรัฐฯ และออสเตรเลียคาดเดาได้อยู่แล้วว่าทั้งจีนและเกาหลีเหนือจะไม่พอใจ จึงไม่ใช่เรื่องน่ากังวลใจมาก สิ่งที่น่าจะสร้างความกังวลให้สหรัฐและออสเตรเลียมากที่สุดคือ ความไม่พอใจที่มาจากพันธิมิตร ฝรั่งเศสออกมาแสดงความไม่พอใจตั้งแต่วันแรกที่สหรัฐฯ สหราชอาณาจัก รและออสเตรเลีย ประกาศแผนความร่วมมือกัน ประเด็นที่ฝรั่งเศสไม่พอใจในช่วงแรก ๆ เป็นเรื่องของการเสียหน้าและเสียผลประโยชน์ เนื่องจากเมื่อปี 2016 ออสเตรเลียได้ทำสัญญากับฝรั่งเศสในการซื้อเรือดำน้ำไว้เป็นจำนวน 12 ลำ มูลค่าสัญญาคือ 50, 000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 1.
กลุ่ม D : ฝรั่งเศส , ออสเตรเลีย , เดนมาร์ก , ตูนิเซีย-【แม้ฟอร์มแย่กับผี
APEC 2022 "มาครง" ชี้ ข้อตกลงเรือดำน้ำกับออสเตรเลีย ไม่ใช่เพื่อ